บทที่ 7 ตอนที่7.จะไปต่อหรือพอแค่นี้
มินรญากลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน วันนี้งานเธอเสร็จเร็วจึงขอกลับก่อน ปกติแล้วเธอมักจะรอกลับพร้อมเพื่อน ๆ เสมอ แต่วันนี้ต้องซื้อของใช้ให้มดยิ้มจึงปลีกตัวออกมาก่อน
ร่างบางขับรถออกจากห้างสรรพสินค้าเมื่อได้ของครบตามที่ต้องการ แวะซื้อขนมหวานร้านปากซอยฝากคนที่บ้านนิดหน่อย โดยไม่ลืมข้าวเหนียวมะม่วงด้วย เธอไม่อยากกินแต่อยากซื้อ ร่างบางน้ำตารื้นหัวตา เมื่อมองกล่องขนมหน้าตาน่ารับประทานนั่น
เขากลับมาแล้ว นี่ก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แต่เธอไม่เห็นวี่แววเขาอีกเลย คงย้ายไปอยู่กรุงเทพสินะ เธอถึงไม่เห็นเขาที่นนทบุรีอีก
ตั้งแต่เขาไปเรียนต่อ บ้านเธออยู่ปทุมฯ บ้านภพธรอยู่นนทบุรีแต่ห่างกันแค่อำเภอกั้น ถึงแม้จะบอกว่าไม่สนใจ แต่ก็มีหลายครั้งที่เธอตั้งใจแอบไปดูเขาที่ร้านทอง แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาเลยสักครั้ง
หญิงสาวขับรถผ่านเข้ามาในรั้วบ้าน รถพ่อจอดอยู่ตรงที่ประจำ เพราะพ่อจะกลับบ้านเร็วกว่าเธอทุกวัน ดวงตากลมโตสะดุดเข้ากับรถยนต์คันใหญ่ที่มาจอดแทนที่เธอ ร่างบางมองรถยนต์คันหรูราคาแพงอย่างสนใจ คงเป็นเจ้านายของพ่อแวะมา เพราะคนฐานะปกติคงไม่สามารถซื้อรถราคานี้ขับแน่นอน
ร่างบางคิดไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะจอดรถขวางหน้ารถคันใหญ่ เดี๋ยวค่อยขยับให้ตอนจะกลับก็แล้วกัน ลงมือขนของลงจากรถ ของใช้มดยิ้มทั้งนั้นเดือนหนึ่ง ๆ หมดไปเท่าไร มินรญายิ้มเมื่อคิดถึงหน้าเล็กจิ้มลิ้มของลูกสาว
ร่างบางรวบถุงเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี แขกของพ่อนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ที่แบ่งมุมจากโถงกลางบ้านแล้วใช้โซฟากั้นง่าย ๆ บ้านเธอไม่กว้างเท่าไร
บนตักเขามีร่างเล็กของลูกสาวเธอเกยอยู่ แขนแกร่งโอบรอบเอวเล็กของมดยิ้มไว้ สร้างความงุนงงให้กับคนเป็นแม่ เพราะปกติมดยิ้มจะไม่ค่อยคุ้นกับคนแปลกหน้า มินรญางงใจกับลูกสาวตัวน้อยที่วันนี้นั่งนิ่ง ๆ ให้คนอื่นกอดได้ เธอต้องเดินผ่านตรงนี้ถึงจะขึ้นชั้นบนได้ เพราะมันติดกับบันได
"มีนมาพอดีเลย” คุณญดาที่นั่งคุยกับแขกหันมาเห็นเธอแล้วร้องเรียกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"มานี่เลยมีน มาดูสิว่าใครมาหา” แม่บอกอย่างดีใจจนออกนอกหน้า ผิดกับพ่อที่ยังนั่งหน้านิ่งอยู่
"มิม มิม จ๋า” มดยิ้มที่นั่งอยู่บนตักของคนร่างสูงร้องเรียกเธออย่างดีใจ ร่างเล็กพยายามปีนลงจากตักกว้าง แต่เขายังไม่ปล่อยมดยิ้มลงมา กลับอุ้มมดยิ้มขึ้นไปแนบอก ก่อนจะหันมามองเธอช้า ๆ
ร่างทั้งร่างชาเหมือนถูกแช่แข็ง ยืนนิ่งตาค้างข้าวของในมือร่วงลงพื้น แข้งขาพากันอ่อนแรง เมื่อสบกับดวงตาคมดุ ที่มองมาอย่างเอาเรื่อง ในมือเขายังอุ้มมดยิ้มไว้ ถึงแม้ร่างเล็ก ๆ จะร้องหาเธอ พยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมแขนใหญ่
"เต้ย" เสียงที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเบาหวิว ทำอะไรไม่ถูกยิ่งเห็นมดยิ้มอยู่ในอ้อมแขนแกร่งเธอยิ่งลนลาน
"มีน เต้ยมาหาน่ะ มาตั้งแต่บ่าย” คุณญดาเอ่ยทำลายความเงียบ เมื่อเห็นคนหนุ่มสาวจ้องหน้ากันค้าง
"ข้าวของพังหมดแล้ว ทำอะไรน่ะมีนทิ้งลงพื้นทำไม” ร่างอวบของคุณญดาลุกจากโซฟาเดินมาหาคนที่ยังยืนค้าง ลงมือเก็บข้าวของ
มินรญาเพิ่งได้สติเดินตรงลิ่วเข้าไปแย่งมดยิ้มจากร่างสูงแต่ภพธรยังยื้อไว้
"มดยิ้มมานี่ลูก” มินรญาไม่ยอมแพ้ ยังพยายามดึงร่างเล็ก ๆ ของลูกออกจากอ้อมแขนใหญ่
มดยิ้มตกใจจนร้องจ้าเมื่อถูกรั้งไปมา เด็กน้อยส่งเสียงร้องดังลั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม
มินรญาเจ็บจี๊ด เมื่อเห็นลูกร้องไห้แรงจะเอาชนะก็เพิ่มขึ้น เธอยังฉุดรั้งลูกไม่หยุด
การกระทำของหนุ่มสาวอยู่ในสายตาของคนสูงวัยทั้งสอง คุณปรีชาเดาเรื่องราวทั้งหมดได้จากอาการของลูกสาว
ส่วนคุณญดาได้แต่ยืนตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
"เอาลูกฉันมา! เห็นไหมแกร้องใหญ่แล้ว” มินรญายังคงรั้งมดยิ้ม จนลืมไปว่าลูกอาจจะเจ็บ
"มีนหยุด!” เสียงห้าวของคนตรงหน้าตวาดลั่น เมื่อหญิงสาวทำเหมือนคุมตัวเองไม่อยู่
"เอาลูกฉันมานะ!” ร่างบางตวาดกลับ
เสียงดังของเธอบวกกับเสียงของคนแปลกหน้า ทำให้มดยิ้มร้องหนักขึ้น
"อะไรกันล่ะ มีน! เต้ย! แย่งมดยิ้มกันทำไมเนี่ย! โอ๋... มาหายายมา ลูก อะไรกัน” คุณญดาห้ามทัพ เมื่อเห็นสองคนแย่งกันเอาเป็นเอาตาย โดยภพธรอุ้มมดยิ้มไว้ด้วยแขนเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างใช้กันมินรญาออกห่างตัว
"เต้ย ส่งมดยิ้มมาให้ป้า” คุณญดาเอ่ยขอ
ภพธรยอมส่งมดยิ้มคืนให้คุณญดา
คุณปรีชายังนั่งมองเงียบ ๆ เหมือนสองคนนั่นลืมเขาไปแล้ว ทำอะไรกัน คงไม่เห็นสินะว่าเขานั่งหัวโด่อยู่นี่
"โอ๋ ๆ ไม่ร้องลูก มาหายายลูก เดี๋ยวยายพาไปนอน” คุณญดาปลอบขวัญหลานตัวน้อยที่ยังคงสะอื้น
"มดยิ้ม มาหาแม่มาลูก” ร่างบางถลาเข้าหาลูกน้อยเหมือนจงอางหวงไข่ เธอหวังจะพาลูกหนีไปให้พ้น ๆ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหนข้อมือก็ถูกรั้ง
"มานี่เลย” มือแกร่งกระชากกลับ จนร่างบางหันมาตามแรง
"ปล่อย!” ตวาดแหว พยายามแกะมือหนาออกจากข้อมือ
"เต้ย! มีน! อะไรกัน! เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้” คุณปรีชาเอ่ยอย่างเหลืออด เด็กพวกนี้ทำอะไรกันไม่เกรงใจเขาบ้างเลย
"คุยกันดี ๆ สิ อะไรเพิ่งเจอกันแท้ ๆ” คุณปรีชายังดุต่อ
ทำให้มือแกร่งที่เผลอคว้าข้อมือบางตามอารมณ์ตัวเองต้องปล่อยออก
"ใช่มีน พ่อพูดถูก คุยกันดี ๆ สิลูก ไม่เจอกันตั้งนาน อะไรมาทะเลาะกันเหมือนเด็กไปได้”
คุณญดาเอ่ยเห็นด้วยกับสามี ก่อนจะก้าวขึ้นชั้นบน เพื่อพามดยิ้มหลบไปก่อน มินรญาทำท่าเดินตาม แต่ถูกเสียงดุ ๆ ของคนเป็นพ่อเรียกไว้ก่อน
"มีน! อย่าเพิ่งไปคุยกับเต้ยให้รู้เรื่องก่อน” คุณปรีชาบอก เขาอยากให้สองคนคุยกัน ไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน แต่ดูแล้วเดาสาเหตุได้ไม่ยาก
"ไม่คุยค่ะ มีนไม่มีอะไรจะคุย ขอตัวนะคะ"
"แต่ผมมี ขออนุญาตนะครับคุณลุง” ภพธรเอ่ยเสียงดัง หันไปขออนุญาตคุณปรีชา ก่อนจะลากร่างบางออกไป
"พ่อช่วยมีนด้วยค่ะ พ่อ!” มินรญาดิ้นรน ปากก็ร้องให้คุณปรีชาช่วย เมื่อถูกมือแกร่งลากออกไปหน้าบ้าน
"เป็นบ้าอะไรมีน คลุ้มคลั่งอะไร!” ภพธรเอ่ยเมื่อลากเธอมาหน้าบ้านได้สำเร็จ
"มาทำไม!” มินรญาตวาดแหว
"มีอะไร ทำไมจะมาไม่ได้” ภพธรเถียงกลับ
"ที่นี่ไม่ต้อนรับแกออกไป!” มินรญาชี้ไปที่หน้าประตูเพื่อไล่เขา
"นี่ใช่ไหมมีน สาเหตุที่มีนทิ้งเต้ย หลอกให้เต้ยไปเรียนคนเดียว” ภพธรจ้องหน้ามินรญาเขม็ง
"มีนมีแฟนใช่ไหม มีลูกใช่ไหม ที่กันเต้ยออกห่างเพราะมีแฟนอยู่ใช่ไหม!"
"เออใช่! แล้วจะทำไม!..."
"ไม่ทำไมหรอกมีน แต่มีนหลอกเต้ยทำไม หลอกให้เต้ยไปเรียนต่อทำไม"
"บ้าเปล่าเนี่ย ใครเขาไปหลอกอะไรแก แกอยากไปเรียนต่อเองไม่ใช่เหรอ"
"ใช่เต้ยอยากไป แล้วใครล่ะที่บอกว่าจะไปด้วยกัน"
"เออ แล้วไงล่ะ ก็ไม่อยากไปน่ะ"
"กันเต้ยออกไป จะได้อยู่กับคนรักใช่ไหม"
"ใช่!"
